วันอังคารที่ 22 กันยายน พ.ศ. 2552

คนพิการ

คนพิการตาบอดในกัมพูชา หันไปทำงานในโรงนวดแผนโบราณกันมากขึ้น คนตาบอดในกัมพูชามักจะถูกมองว่า เป็นคนด้อยโอกาส และถูกกีดกันทั้งในด้านการศีกษา และการทำงานมาโดยตลอด หนทางหนึ่งที่คนตาบอดเหล่านั้น จะหลุดพ้นจากสภาพความลำบาก และความยากจนคือ การทำงานในโรงนวดแผนโบราณที่กำลังได้รับความนิยมมากขึ้นในกัมพูชา กัมพูชาเป็นประเทศที่มีอัตราส่วนคนตาบอด มากที่สุดในโลกประเทศหนึ่ง คาดว่าปัจจุบันมีชาวกัมพูชาตาบอดอยู่ราว 144,000 คน หรือ 1.25% ของประชากรทั้งหมด พูดง่ายๆ ก็คือในชาวกัมพูชา 100 คน จะมีคนตาบอดมากกว่า 1 คนโดยสาเหตุหลักที่ทำให้มีคนตาบอดจำนวนมาก ก็เพราะปัญหาการขาดแคลนด้านสาธารณสุข ส่งผลให้โรคอีสุกอีใสหรือโรคหัดลุกลาม ประกอบกับอุบัติเหตุจากการจราจร อาชญากรรม และกับระเบิดที่หลงเหลือจากสงครามหลายทศวรรษ ล้วนเป็นสาเหตุให้ชาวกัมพูชาจำนวนมาก กลายเป็นคนพิการทางดวงตา ซึ่งคนตาบอดเหล่านั้นมักจะถูกกีดกันจากสังคมทั้งในด้านการศึกษา และการทำงานคุณบูน เมา ผอ.สมาคมคนตาบอดในกัมพูชา ซึ่งสูญเสียดวงตาไปเมื่อ 16 ปีที่แล้วเพราะถูกหัวขโมยสาดน้ำกรดใส่หน้า บอกว่าคนตาบอดในกัมพูชา มักจะถูกกีดกัน เนื่องจากสังคม และครอบครัวเชื่อว่า คนตาบอดเหล่านั้นทำกรรมมาในชาติที่แล้ว จึงต้องก้มหน้ารับกรรมต่อไปในชาตินี้ กลายไปคนไร้ประโยชน์ต่อสังคม คุณเมากล่าวว่า การให้โอกาสด้านการศึกษา และการทำงาน ตลอดจนการดูแลสุขภาพ คือสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้คนตาบอด หลุดพ้นจากวงจรความยากลำบาก เช่นเดียวกับคนตาบอดที่ประสบความสำเร็จในชีวิต และหน้าที่การงานหลายคน หนึ่งในนั้นคือคุณวี แระ เจ้าของโรงนวดคนตาบอดแห่งหนึ่งในกรุงพนมเปญ ผู้สูญเสียดวงตาไปตั้งแต่ยังแบเบาะเพราะโรคอีสุกอีใสคุณวี แระ เล่าว่าเขาเริ่มเรียนรู้วิชานวดแผนโบราณ ก่อนที่จะลงทุนกับเพื่อนๆ เปิดโรงนวดชื่อ Seeing Hands หรือ มือมีดวงตา จากนั้นจึงเปิดสอนวิธีนวดให้แก่เพื่อนๆ คนตาบอดเพื่อนำไปใช้หาเลี้ยงชีพต่อไป ปัจจุบัน ธุรกิจนวดแผนโบราณในกัมพูชา เติบโตขึ้นมาก ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมามีโรงนวดโดยคนตาบอดผุดขึ้น ในกรุงพนมเปญและเมืองอื่นๆ มากกว่า 10 แห่งคุณโส ภารี ชายวัย 24 ปีผู้รอดชีวิตจากกับระเบิด แต่ต้องเสียดวงตาไป บอกว่า การเข้ามาทำงานเป็นหมอนวดแผนโบราณ ได้เปลี่ยนชีวิตของเขาจากหน้ามือเป็นหลังมือชายตาบอดผู้นี้บอกว่า จากที่เคยเป็นภาระของครอบครัว เวลานี้เขาสามารถทำงานหาเงินเองได้ และยังช่วยจุนเจือครอบครัวได้อีกด้วย และสำหรับลูกค้าที่มาใช้บริการนั้น หลายคนยืนยันว่าหมอนวดตาบอดนวดได้ดีกว่าคนตาดีเสียอีก ซึ่งอาจเป็นเพราะคนตาบอดมีประสาทรับรู้การสัมผัสที่ดีกว่าคนทั่วไปนั่นเอง คุณโทนี่ ไรซ์ นักท่องเที่ยวชาวอังกฤษ เป็นอีกผู้หนึ่งที่ติดใจมือมีตาของหมดนวดตาบอดชาวกัมพูชาคุณโทนี่แนะนำให้ลองมาใช้บริการหมอนวดตาบอดในกัมพูชาดู เพราะพวกเขาจะเอาจริงเอาจัง และกดจุดต่างๆ ได้อย่างแม่นยำราวกับตาเห็น สำหรับค่าบริการที่ร้าน Seeing Hands นั้นตกชั่วโมงละประมาณ 5 ดอลล่าร์หรือราว 175 บาทเท่านั้น นอกจากราคาจะเป็นกันเองแล้ว การได้มานวดที่ร้านมือมีดวงตานี้ อาจจะช่วยเปิดดวงตาที่หัวใจ ให้คุณได้มองเห็นคุณค่าของคนด้อยโอกาสในสังคม มากขึ้นก็เป็นได้ ที่มา voa news

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น